คลินิกไก่ชน

ดำเนินเรื่องโดย หมอไก่

ไก่เป็นหน่อ ไก่เป็นตาปลา และวิธีการรักษา (ตอนที่2)

     เรื่องราวของวิธีการรักษาล้วนแล้วแต่เป็นความถนัดและการเรียนรู้จากประสบการณ์ของแต่ละคนเพราะวิธีอาจจะไม่เหมือนกันความแตกต่างไม่ได้หมายความว่าถูกหรือผิด แต่ถ้าการรักษานั้นทำให้ไก่ของท่านหายเป็นปกติหรืออาการทุเลาลงไม่ว่าจะเป็นวิธีไหนก็ถือว่าสำเร็จด้วยกันทั้งสิ้น แต่ถ้ารักษาไปแล้วอาการดังกล่าวไม่ดีขึ้นหรืออาการแย่ลงนั่นหมายความว่าสิ่งที่ทำอยู่ไม่ควรทำและควรหาวิธีที่ถูกต้องจากตำราหรือจากผู้ที่รู้จริง 
      ในฉบับที่แล้วกล่าวถึงการรักษาตาปลาวิธีต่างๆที่นำเสนอไปส่วนใหญ่ก็ได้ผลทั้งสิ้นและมาดูวิธีของผมที่ใช้เป็นประจำบ้างว่าต้องทำแบบไหนทำอย่างไร ในฐานะที่ผมเป็นผู้ที่ชื่นชอบไก่ชนมาตั้งแต่เด็ก และเรียนมาโดยตรงทางด้านการรักษา มีอาชีพเป็นสัตวแพทย์เปิดคลินิก วิธีการของผมก็จะประมาณนี้ครับ วิธีผ่าของผมส่วนมากจะใช้วิธีนี้ครับ
     - เช็ดแอลกอฮอร์และเบตาดีนบริเวณที่จะผ่าให้สะอาด ขัดเอาคราบสกปรกออก
     - เวลาเราจับก้อนปรวดจะมีตำแหน่งที่ผิวหนังบางที่สุดหรือหัวปรวด หัวหน่อ พอมั่นใจว่าเอาก้อนปรวดออกหมดก็ใช้เบตาดีนผสมน้ำเกลือล้างให้สะอาด 
     - การเย็บปิดแผล ต้องระวังให้ดี เพราะเท้าไก่เป็นจุดรับน้ำหนักและเหยียบเชื้อโรคอยู่ตลอกเวลา มีโอกาสแผลแตกหรือแผลไม่เนียนครับ
     - ทาแผลซ้ำอีกครั้งด้วยยาทาแผลมีหลากหลายยี่ห้อให้เลือก ส่วนผมจะใช้ยาที่ผสมเอง เสร็จแล้วก็ฉีดยาหรือกินยาปฎิชีวณะ+ลดอักเสบ อีก 5-7 วันตัดไหมออกครับ
     -ให้ยาปฎิชีวนะ(ยาฆ่าเชื้อ)คู่กับยาลดอักเสบ เช่นอ๊อกซี่,แอม็อคซี่,เตตราไซคลิน,เอ็นโร,เพ็นสเต๊ป คู่กับยาลดอักเสบเด๊กซ่า,ไพร็อคซิแคม,ไอบูโปรเฟน เป็นต้น ให้ติดต่อกัน 5-7 วันจะทำให้เกิดปรวดน้อยลง หรือปรวดจะเล็กลง
     - ใช้ยาทาแผลภายนอก จะทำให้แผลแห้งและหดลง หากเราไม่ทาแผลหรือแผลไม่แห้ง แผลจะมีน้ำเลือดน้ำเหลืองไหลออกมาทำให้เกิดอาการอักเสบบวมมากขึ้น
     - ประคบร้อน อาจจะใช้น้ำอุ่นๆหรือวิธีประคบกระเบื้อง จะช่วยสลายลิ่มเลือด ลดการบวมการอักเสบได้ดีเลย ส่วนที่เหลือก็จะหดเล็กลงครับ
     - กรณีถ้าเราต้องผ่า ผมจะรอให้ปรวดรวมเป็นก้อนแข็งๆ จับดูคล้ายมีแคปซูลหรือเปลือกหุ้มอยู่ ก้อนมันจะลอยๆเคลื่อนที่ได้เล็กน้อย พอผ่าไปจะบีบออกง่าย ออกมาทีเดียวหมดเลย 90% จะไม่กลับมาเป็นซ้ำอีก
       อย่าลืมนะครับว่าไก่เค้าเจ็บตัวเพื่อเรา บาดเจ็บเพื่อเรา เรานำเค้าไปซ้อมไปชน กลับมาก็ต้องดูแลเค้าให้ดี ผมหวังว่าวิธีของผมและกรณีตัวอย่างจะช่วยเป็นแนวทางในการรักษาไก่ตัวรักของท่านได้บ้าง