ธุรกิจไก่ชน ตอนที่.1

ธุรกิจไก่ชน ตอนที่ 1

ดำเนินเรื่องโดย บก.แจ็ค


...อยากขายไก่ชนต้องทำอย่างไร
...แนวคิดแรกเริ่มสำคัญที่สุด 

วางเป้าหมาย และกำหนดเส้นทางสู่ความสำเร็จ

    เป็นเรื่องที่ถูกถามมาตลอดตั้งแต่ผมทำนิตยสารไก่ชนเมื่อ 20 ปีที่แล้ว และคำตอบที่ได้ก็หลากหลายเส้นทางเหลือเกิน ในขณะนั้นซึ่งวันเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าเส้นทางที่เดิน สิ่งที่ทำตอนนี้เกิดผลอย่างที่ตั้งใจหรือไม่ หลายต่อหลายฟาร์มในตอนนั้นก็ยังยืนหยัดมาจนถึงปัจจุบัน ก็เพราะการพัฒนาตัวเอง สร้างตัวตน มีสายพันธุ์เป็นของตัวเอง และที่สำคัญมีผลงานเป็นที่ประจักษ์กับสายตาคนทั้งประเทศ ถึงได้ยืนหยัดอย่างสง่างามจนถึงปัจจุบัน
ทำไมถึงต้องเพราะไก่ชน ไก่ชนแตกต่างจากไก่เนื้ออย่างไร
    ทั้งๆที่ไก่เนื้อทั่วไปรูปร่างลักษณะ การเลี้ยงดูในเริ่มแรกก็ไม่ได้ต่างอะไรกับไก่ชน ทำไมราคามันถึงแตกต่างกันราวฟ้ากับดินขนาดนั้น มูลค่าของไก่ชนอยู่ที่ความเก่งของตัวมันเอง หลังจากที่ได้ทดสอบไม่ว่าจะเป็นชมรมตามหมู่บ้าน สนามไก่ชนในตัวอำเภอขยับขึ้นมาอีกหน่อยก็คือได้มาประลองในสนามระดับจังหวัด และถ้ามีฝีมือจนผ่านจุดนั้นมาได้ก็ต้องเข้าสู่สนามระดับประเทศ เมื่อก่อนการทดสอบสายพันธุ์ก็ต้องเป็นรูปแบบประมาณนี้ และเมื่อผ่านการทดสอบได้รับชัยชนะในราคาที่สูงๆ
หลักแสนหลักล้าน มีลีลามีเชิงชนมีจุดเด่น เป็นที่ประทับใจกับคนที่เห็นแน่นอนว่าสายพันธุ์ไม่ว่าจะเป็นคอกพี่พอกน้องแม้กระทั่งสายพันธุ์ที่อยู่บ้านเดียวกัน คนที่ต้องการจะหลั่งไหลมาจากทั่วทุกสารทิศ เพราะไก่ถ้าเก่งต่อให้อยู่ในป่าในเขาอย่างไร คนก็ต้องตามไปซื้อ ปัญหาคือ จะต้องทำยังไงให้ไปถึงจุดที่ลูกค้าต้องวิ่งเข้าหา??
   นี่แค่ตลาดในประเทศไทยไม่รวมถึงการส่งออกไปต่างประเทศประเทศที่นิยมใช้ไก่ของประเทศไทยของเราที่สุด น่าจะหนีไม่พ้น ประเทศอินโดนีเซีย ข้อมูลจากปีที่แล้ว เรื่องการส่งไก่ไปทางเรือจากเอเจนซี่คนเดียวคือเจ้าของเรือ ชื่อมิสเตอร์โอจี้ 15 วัน เรือจะจอดเทียบท่าจาก ภาคใต้ และนำไก่จำนวน 400-500 กล่อง ออกจากประเทศไทยเพื่อส่งตามปลายทางไม่ว่าจะเป็นมาเลเซียอินโดนีเซียตามเกาะต่างๆไปจนสุดของอินโดนีเซียที่มีคนสั่งอยู่ก็น่าจะเป็นทาง เมืองสุราบาย่า ซึ่งผู้คนที่นั่นต้องบอกว่าคลั่งไคล้ไก่ชนไทยของเราเป็นอย่างมาก เขายึดเอาประเทศไทยเป็นศูนย์กลางเมืองหลวงของไก่ชน เขาศึกษาเรื่องของไก่ชน ทางประเทศเขาทราบด้วยว่าไก่ชนตัวไหนเก่งซุ้มฟาร์มซุ้มไหนดัง และจะมีเอเย่นเข้ามาติดต่อเพื่อเป็นพ่อค้าคนกลางในการนำไปขายส่งต่อให้กับลูกค้าอีกทอดหนึ่ง เพราะการไปประเทศอินโดนีเซียซึ่งถูกเชิญเป็นตัวแทนแห่งประเทศไทยเข้าไปร่วมรับชมการแข่งขันระดับอาเซียนถึง 4 ครั้ง ส่วนตัวผมเองได้สอบถามผู้ที่ชื่นชอบไก่ชนและผู้จัดการแข่งขันที่ประเทศอินโดนีเซีย เขาบอกว่าไก่ชนไทยต้องเอามาจากประเทศไทยถึงจะมีมูลค่า มีคนเคยเอาไก่ทั้งตัวผู้ตัวเมียจากประเทศไทยมาเพราะที่อินโดนีเซียแต่ก็ออกมาไม่เก่งเหมือนมาจากประเทศไทยอาจจะด้วยเรื่องของภูมิประเทศ ภูมิอากาศ และที่สำคัญอาจจะโดนหลอก เพราะการที่จะเพาะไก่ออกมาให้เก่ง องค์ประกอบไม่ใช่เรื่องที่ง่าย ดังนั้นทางออกที่ดีที่สุดก็คือนำเข้าไก่จากประเทศไทยเพื่อเอาไปต่อสู้ประลองในการจัดการแข่งขันซึ่งเป็นมหกรรมเป็นงานประจำเดือนที่มีคนเข้าชมคล้ายๆกับการจัดการแข่งขันฟุตบอล มีทีมทั้งหมด 32 ทีมต่อ 1 ทัวร์นาเม้นต์ แต่ละทีมต้องหาไก่มาทั้งหมด 4-5 ตัว น้ำหนักจะไล่เลี่ยกันขึ้นไป เป็นการชนแบบ กดคะแนน ดังนั้นที่อินโดนีเซีย ย่อมต้องการไก่จากประเทศไทยจำนวนมาก เขายอมเพื่อจะจ่ายค่าขนส่งต่อ 1 กล่องราคา 6,500 บาทถึง 8,000 บาทจากประเทศไทยไปที่อินโดนีเซีย นี่ยังไม่รวมประเทศทางตะวันออกกลาง ซึ่งนิยมไก่น้ำหนัก 3.2 กิโลกรัมขึ้นไป ต่างประเทศบาห์เรนซาอุดิอาระเบียกาตาร์ การส่งไก่ไปทางตะวันออกกลางที่กล่าวมาในเบื้องต้นต้องผ่านคน บาห์เรนที่มาอยู่ในประเทศไทย จุดส่งไก่อยู่ที่หนองจอกชื่อมิสเตอร์นาซิม เบื้องต้นคงเห็นแล้วว่าไก่ชนไทยขอให้คุณเพาะให้เก่งไม่ต้องกลัวว่าจะขายไม่ได้ เพราะอย่างน้อยถ้าขายไม่ได้ก็ยังสามารถนำมาเป็นไก่เนื้อใช้บริโภคเป็นโปรตีนเป็นอาหาร รับรองว่าไม่ขาดทุนแน่นอน
     สำหรับท่านที่อ่านแล้วเกิดความสนใจยิ่งเห็นทุกวันนี้ไก่ชนขายกันตัวละหลายล้านบาท หลายต่อหลายคนที่มีบ้านมีรถ ไก่ชนตัวเดียวสามารถเปลี่ยนชีวิตคนจากที่จนกลับมาลืมตาอ้าปาก มีให้เห็นบ่อยมากในช่วงนี้ แต่กว่าจะถึงจุดนั้นได้อย่าไปมองที่ความสำเร็จ ให้ดูที่ จุดเริ่มต้น ระหว่างทางว่าคนเหล่านั้นเจออุปสรรคอะไรบ้าง กว่าเขาจะได้สิ่งตอบแทนแบบนี้ รับรองว่าถ้าไม่มีความรู้ไม่มีทักษะที่ดีไม่มีทีมงานที่ดี หลายต่อหลายคนที่เป็นนายทุนหรือเป็นนักธุรกิจกระโดดเข้ามาใน วงการไก่ชน เข้ามาลงทุนหลายล้านบาท ผมก็เห็นกระเด้งออกไปนักต่อนักแล้วนะคับ
   ดังนั้นการเริ่มต้นอย่างถูกวิธีการศึกษาหาข้อมูลเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นมากๆสำหรับการทำธุรกิจไก่ชนในยุคนี้ ผมจะใช้ความรู้และประสบการณ์ตลอดระยะเวลา 20 ปีถ่ายทอดออกมาเป็น คอลัมน์ไก่ชนธุรกิจ เพื่อให้คนที่สนใจอยากจะทำให้สิ่งที่ชื่นชอบอย่างไก่ชนเป็นธุรกิจที่สามารถเลี้ยงตัวได้ เริ่มต้นกันจริงๆจังๆติดตามตอนหน้านะครับ



*ผมนำทีมจากประเทศไทยไปชมการแข่งขันที่เมืองสุราบาย่า ประเทศอินโดนีเซีย


*บรรยากาศการแข่งขันจาก 32 ทีมหาผู้ชนะเพียงหนึ่งเดียว รางวัลคือรถยนต์มูลค่า 2 ล้านบาท


*อีกครั้งหนึ่งที่ถูกเชิญเป็นตัวแทนประเทศไทยไปชมการแข่งขันและแลกเปลี่ยนแนวทางการพัฒนาไก่ชนที่เมืองยอกจากาต้า โดย "มิสเตอร์ joyo" ผู้จัดการแข่งขันจากอินโดนีเซีย


*มิสเตอร์ joyo จากประเทศอินโดนีเซียและท่าน สจ.เซ้ม โกวเซ็มฟาร์ม