เกาะกระแสวงการ "คอมเม้นต์ดราม่า...เจ้าฟ้าคำราม"

เกาะกระแสวงการ

ดำเนินเรื่องโดย บก.แจ็ค


    คอมเม้นต์ดราม่า...เจ้าฟ้าคำราม พ่อพันธุ์ตัวใหม่ฟาร์มหนุ่มโรงหมี่แชมป์ 125 ล้านบาท

    หลังจากที่มีข่าวในเพจข่าวดังได้นำเสนอเรื่องราวยอดใจผู้ชนะเงินเดิมพันสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ 125 ล้านบาท และมีการย้ายค่ายจากประจำการเป็นพ่อพันธุ์แห่งซุ้มหนุ่มโรงหมี่ด้วยค่าตัว 6.5 ล้านบาท ในเพจดังกล่าวมีคนนอกวงการไก่ชนที่ยังไม่เข้าใจ ตังค์เข้ามาแสดงความคิดเห็นในแง่มุมต่างๆซึ่งทำให้เกิดความเสียหาย หรือเสียชื่อเสียง ไม่ว่าจะต่อเจ้าของเดิมที่เป็นต้นสังกัด หรือเป็นเจ้าของใหม่ รวมถึงกระทบกับคนในวงการไก่ชนอย่างเราๆ ดังนั้นผมจึงยกข้อกฎหมายที่สามารถฟ้องร้องได้เกี่ยวกับการ ใช้ social media อย่างผิดวิธีด้วยการ comment ไม่ให้เกียรติหรือสร้างความเสียหายเสียชื่อเสียงว่ามีกฎหมายรองรับอย่างไรบ้างและมีโทษอย่างไรบ้าง 
   กฎหมายโซเชียลโพสต์–คอมเมนต์บน Facebook เสี่ยงคดีอะไรบ้าง และเอาผิดกันอย่างไร
    โลกออนไลน์คือ “พื้นที่สาธารณะ” ในสายตากฎหมาย คำพูดเพียงไม่กี่บรรทัดอาจกลายเป็นคดีได้จริง ทั้งคดีอาญาและแพ่ง ขึ้นกับ “ข้อเท็จจริง” ว่ากล่าวอะไร ต่อใคร อย่างไร และเสียหายแค่ไหน บทความนี้สรุปฐานความผิดที่พบบ่อย สิทธิในการฟ้องร้อง แนวทางจัดการ และโทษที่เกี่ยวข้องแบบเข้มข้น ใช้ได้ทั้งผู้ขาย ผู้ซื้อ แอดมินเพจ และผู้ใช้งานทั่วไป
   ...ฐานความผิดอาญาที่เจอบ่อยบนโซเชียล
1. หมิ่นประมาท (ป.อ. ม.326) และหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา (ม.328)
    การใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สามจนเสื่อมเสียชื่อเสียง เป็น “หมิ่นประมาท” โทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท และถ้าทำผ่านสื่อ/การโฆษณา (เช่น โพสต์สาธารณะ แชร์ให้แพร่หลาย) โทษหนักขึ้นเป็นจำคุกไม่เกิน 2 ปี และปรับไม่เกิน 200,000 บาท นอกจากนี้ศาลอาจสั่งทำลายเอกสาร/สื่อที่หมิ่น และสั่งให้ลงประกาศคำพิพากษาได้ด้วย. 
    ข้อยกเว้นที่ปกป้องผู้พูดโดยสุจริต (ม.329) และ “ข้อเท็จจริงเป็นจริง” (ม.330)
หากเป็นการแสดงความเห็นโดยสุจริตเพื่อป้องกันสิทธิ วิจารณ์โดยชอบในเรื่องสาธารณะ หรือรายงานคำพิพากษาเปิด ก็ไม่เป็นความผิด ส่วนการอ้างความจริง ผู้ถูกกล่าวหาต้องพิสูจน์ว่า “จริง” และไม่ใช่เรื่องส่วนตัวที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ จึงยกเว้นโทษได้. 
2.  ดูหมิ่นซึ่งหน้า (ป.อ. ม.393)
     กรณีด่าทอหยาบคายโดยไม่ยกข้อเท็จจริง มักเข้า “ดูหมิ่น” (โทษเบากว่า) มากกว่าหมิ่นประมาท อย่างไรก็ดีบนออนไลน์ส่วนใหญ่จะพิจารณาเป็น “หมิ่นประมาท” มากกว่า.
3. พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ
      หลังแก้ไขปี 2560 มาตรา 14(1) ไม่ใช้กับคดีหมิ่นประมาท อีกต่อไป (หยุดเทรนด์ “หมิ่นฯ + คอมฯ” ที่เคยฟ้องคู่กัน) อย่างไรก็ดี มาตรา 14 ยังเอาผิดการนำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์บางลักษณะที่ก่อความเสียหายต่อสาธารณะได้ใน    ....กรณีที่เข้าเงื่อนไข. 
มาตรา 16: การอัปโหลด เผยแพร่ “ภาพบุคคลที่ถูกตัดต่อ ดัดแปลง” จนเสียชื่อเสียง อับอาย มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท (เพิ่มโทษขึ้นจากฉบับเดิม). 
       คดีหมิ่นประมาทเป็น “ความผิดต่อส่วนตัว” และ ยอมความได้ ผู้เสียหายต้องร้องทุกข์ภายใน 3 เดือน นับแต่รู้เรื่องและรู้ตัวผู้กระทำ มิฉะนั้นขาดอายุความร้องทุกข์ในทางอาญา.  
      ดังนั้นการใช้ social media ถ้าไม่ชอบก็เลื่อนผ่าน comment ให้กำลังใจ ส่งข้อความชื่นชมยินดี ไม่มีใครว่าแน่นอนแล้วแถมยังได้มิตรภาพที่ดีด้วย บางคนรู้ไม่จริงโพสต์ทำให้เขาเสียๆหายๆก็สมควรที่จะได้รับโทษเป็นบทเรียนและประสบการณ์ อย่าลืมนะครับทุกวันนี้การขอโทษเขารับเป็นเงินสดกันทั้งนั้น ไม่ชอบเลื่อนผ่าน ถ้าชอบกดไลค์ ถ้าใช่กดแชร์ ...อย่าทำอะไรแผลงๆให้ตนเองเดือดร้อนและเสียเงินเลยครับ...ฝากไว้ให้คิดส่วนใครไม่คิดก็ลองดูได้