คลินิกไก่ชน "โรคหวัดหน้าบวม"

คลินิกไก่ชน

ดำเนินเรื่องโดย หมอไก่


โรคหวัดหน้าบวม ไก่เป็นหวัดหน้าบวม คอดัง ตาลมูก จมูกเหม็นๆ

       สวัสดีครับท่านผู้อ่านกลับมาพบกันอีกครั้งในช่วงร้อนๆเข้าสู่ฝน เป็นช่วงคนป่วย ไก่ป่วยได้ง่ายมากครับเดิมทีผมตั้งใจจะนำเรื่องวิธีการเลือกอาหารลูกไก่มาฝาก แต่ในช่วงนี้อากาศชื้นๆมีหลายท่านปรึกษาเรื่องไก่เป็นหวัดและหวัดหน้าบวมมาหลายท่าน ทั้งผมเองก็เจอปัญหาบ่อยๆ ผมคิดว่าท่านผู้อ่านหลายๆท่านก็คงกำลังจะประสบปัญหาไก่เป็นหวัดหน้าบวมกันอยู่เช่นกันครับ ในฉบับนี้ผมก็เลยขอยกเอาเรื่องหวัดหน้าบวม ตาลมูก คอดังมาฝากท่านผู้อ่านก่อนครับ
     อาการที่พบเจอบ่อยๆ คอดัง จมูกเหม็น มีน้ำมูก ตาเจ็บ หน้าบวม ซึม จาม จะเป็นโรคที่เกิดกับระบบทางเดินหายใจ ก่อให้เกิดการอักเสบของช่องจมูก และโพรงอากาศใต้ตา ไก่ที่หายจากโรคนี้จะยังคงเป็นตัวนำโรคได้อีก 4-12 เดือนนะครับ ซึ่งก็หมายความว่าถ้าเราเอาไก่ตัวนี้เข้ามาในบ้านของเรา ก็สามารถจะทำให้ไก่ที่บ้านเราป่วยได้เช่นกัน ส่วนมากจะติดกันทางการสูดหรือได้รับเชื้อจากสิ่งคัดหลังของไก่ที่ป่วย เช่นน้ำมูก น้ำลาย เสมหะ การใช้ขนปั่นคอ ผ้าเช็ดน้ำหรือใช้สิ่งของร่วมกัน กินน้ำร่วมกัน
      *ถ้าเป็นแบบเฉียบพลันจะมีน้ำมูกใสๆ น้ำตาไหล ช่องจมูกอักเสบ (แต่บางครั้งก็อาจจะพบรูจมูกแห้ง) จะมีการบวมน้ำที่บริเวณโพรงอากาศใต้ตา เยื่อตาขาวอักเสบ ตาปิด ใบหน้า หรือโพรงจมูก ทำให้ใบหน้าบวมขึ้น เป็นที่มาของคำว่า "หวัดหน้าบวม" โดยปกติจะพบว่าไก่กินน้ำ อาหารลดลง และถ้าตัวเมียจะพบความแปรปรวนของผลผลิตไข่สามารถพบการบวมน้ำที่เหนียง หลังจากที่ไก่หายการอักเสบ จะพบรอยย่นที่เหนียง สังเกตุบริเวณคอและปีกจะมีคราบน้ำมูกติดอยู่ เพราะไก่จะเอียงคอเช็ดน้ำมูก 
      *ถ้าเป็นแบบเรื้อรัง จะมีน้ำมูกเหนียวอุตตันโพรงจมูก ไก่จะอ้าปากหายใจ ถ้าสะสมนานและรุนแรงจะมีหนองบริเวณไซนัสและโพรงจมูก จะทำให้ตาปิด ถ้าลามไปสู่ระบบทางเดินหายใจ ก็จะทำให้เวลาหายใจจะเกิดเสียงดัง หรือที่เราเรียกว่า "คอครอก" ครับ
   ..... การรักษา
   -ถ้าเป็นใหม่ๆ ผมใช้น้ำเกลือ หรือแอลกอฮอร์ เช็ดบริเวณจมูก และหยอดเข้าไปในจมูกข้างละ 1-2 หยดครับ จะช่วยฆ่าเชื้อในโพลงจมูกได้เยอะเลยครับ
   -ในการรักษา จะใช้ยาหลักๆที่ได้ผลดีกับระบบทางเดินหายใจ ที่นิยมใช้กันเช่น พีวัน (ของพี่ปุ๋ย ป.ประวิทย์) NG ของเสี่ยเบิร์ดส.มีสุวรรณ ยาแอมปิซิลลิน ลินโค เซฟาโลซิน ซัลฟา-ไตรเมโทพริม หลังจากการรักษาไก่อาจจะกลับมาเป็นใหม่ได้ เนื่องจากที่ผมได้บอกไปเมื่อข้างต้นว่าไก่ตัวที่หายแล้วยังสามารถอมโรคและเป็นพาหะต่อได้อีก 4-12 เดือนเลยครับ ดังนั้นจึงควรเน้นเรื่องระบบการจัดการต่อด้วยครับ
   -ผมจะเสริมด้วยยาลดไข้ ยาลดน้ำมูกและละลายเสมหะด้วยครับ
     ส่วนในตัวที่หน้าบวมมากๆหรือเป็นเรื้อรัง ผมจะใช้ขนไก่สวนท่อน้ำตาลงมาทะลุที่เพดานปาก เพื่อเอาสิ่งที่อุดตันท่อน้ำตาออก ซึ่งเป็นอีกสาเหตุนึงของอาการหน้าบวม ไม่ว่าจะเป็นข้าวเปลือก ลิ่มเลือด น้ำมูก เสมหะหรือแม้กระทั่งฝอยขัดหม้อที่ผมเจอด้วยตัวเอง สงสัยคงจะกินไปกับเศษอาหารที่ติดมากับจานครับ โดยผมจะสวนจากข้างบนลงข้างล่างเพื่อให้เศษสิ่งคัดหลั่งได้ไหลลงข้างล่าง และเพื่อนป้องกันกรณีเจอข้าวเปลือกติดเพดานครับ
    การป้องกันโรค  
- ทำวัคซีน 2-4 ครั้ง และกระตุ้นทุกๆ 4-6 เดือนครับ
- ไก่ที่นำเข้าฟาร์มใหม่ๆ ต้องทำวัคซีนให้ไก่ และกักโรคก่อนนำไก่ปล่อยเข้ารวมฝูง
- ฆ่าเชื้อบริเวณสิ่งปูรองพื้น โรงเรือน อุปกรณ์
- ดูแลเรื่องระบบการจัดการฟาร์มที่ดี ไม่ให้พื้นไก่อาศัยเปียก ทำความสะอาด กวาดขี้ไก่ลดกลิ่นแอมโมเนีย
  ที่เป็นอีกสาเหตุทำให้ไก่เป็นหวัด
ทำความสะอาดคอก เล้า หรือโรงเรือนเป็นประจำ รวมทั้งบริเวณล้อมรอบ อย่าให้มีแอ่งน้ำสกปรก ต้องมี
  น้ำยาฆ่าเชื้อโรคสำหรับจุ่มเท้าก่อนเข้า ดูแลด้านการสุขาภิบาล และการเลี้ยงดูที่ดีไม่ให้ไก่เครียด
- ป้องกันเชื้อโรคจากภายนอก เช่น ไม่นำไก่จากแหล่งที่เป็นโรค หรือสงสัยว่าเป็นโรค หรือไม่ทราบ
  แหล่ง เข้ามาในฟาร์มและรวมในฝูงทันที ถ้าจะนำไก่จากแหล่งภายนอกมาเลี้ยง ต้องขังไก่แยกกักกันโรค
  ไว้อย่างน้อย 7-14 วัน เพื่อดูอาการให้แน่ใจก่อนว่าไก่ไม่เป็นโรคแน่นอนจึงนำเข้ามาเลี้ยงรวมฝูงได้
- ไก่ป่วยต้องแยกออกจากฝูงแล้วทำการรักษาโรคทันที ถ้ารักษาไม่ได้ผลต้องคัดออกทิ้งและทำลาย เพื่อ
   ป้องกันการแพร่โรคในฝูง
- ปรึกษาสัตวแพทย์หรือปศุสัตว์