เกาะกระแสวงการ

ดำเนินเรื่องโดย บก.แจ็ค

เปิดใจ เสี่ยเปิ้ล เพชรนำโชค ศึกครั้งสุดท้าย ของปีเจอกันอีกทีปีหน้าเลย

       ในทุกปี วงการไก่ชนต้องมีไฟต์ใหญ่ที่ถูกจารึกไว้ในความทรงจำ และปีนี้หนึ่งในไฟต์ที่คนพูดถึงมากที่สุดคงหนีไม่พ้นไฟต์ที่เสี่ยเปิ้ลเพชรนำโชคประกาศชัดเจนว่า “นี่คือไฟท์สุดท้ายของปี” คำพูดนั้นไม่ใช่เพียงการกำหนดโปรแกรมชนปกติ แต่คือการประกาศปิดฉากเวทีด้วยศักดิ์ศรีและเกียรติยศของชายผู้ผ่านศึกนับไม่ถ้วน
     ไม่ได้สร้างกระแส แต่เป็นการเปล่งออกมาจากหัวใจที่เหนื่อยล้ากับไฟต์เดิมพันสูงที่เต็มไปด้วยแรงกดดัน เขายอมรับตรงไปตรงมาว่ามันไม่สนุกเหมือนเก่า ความตื่นเต้นและมนต์ขลังที่เคยมีเริ่มจางหายไป คำว่า “ไฟต์สุดท้าย” จึงไม่ใช่เพียงกำหนดเวลา แต่เป็นสัญลักษณ์ของการปลดปล่อยตัวเองจากพันธนาการทางใจ เพื่อกลับไปหาสิ่งที่มีค่ากว่าชัยชนะบนสังเวียน นั่นคือครอบครัว ความสุข และการได้เป็นผู้เฝ้าดูและติดตามลูกเหล่าของตัวเองที่ออกไปชนมีผลงานตามสนามต่างๆ ขอเป็นผู้ดูผู้ชม เป็นfc ของซุ้มที่เอาสายเลือดของเพชรนำโชคออกทำการชน อยากมีโมเม้นต์นี้บ้าง แต่ใช่ว่าการก้าวลงจากเวทีจะทำให้ไฟต์นี้เบาลง ตรงกันข้าม มันกลับทำให้ไฟต์นี้กลายเป็นไฟต์ที่กดดันยิ่งกว่าเดิม ทุกสายตาจับจ้อง เพราะนี่ไม่ใช่แค่การวัดกันระหว่างสองซุ้ม หากแต่เป็นไฟต์ส่งท้ายปีที่บอกเล่าเรื่องราวของคนหนึ่งคนที่เลือกจะปิดตำนานชั่วคราวด้วยศักดิ์ศรี  “แพ้หรือชนะไม่สำคัญเท่าการลงสนามครั้งสุดท้ายด้วยหัวใจเต็มร้อย” คู่ชนในครั้งนี้อย่างเสี่ยขาวก็ยิ่งทำให้ไฟต์มีน้ำหนัก เพราะนี่คือการเผชิญหน้าที่ไม่มีใครยอมใคร และเพราะทุกคนรู้ว่าเสี่ยเปิ้ลจะใส่หมดหน้าตัก มันจึงเป็นไฟต์ที่ทั้งแฟนคลับ ทีมงาน และคู่ต่อสู้ต้องเผชิญกับแรงกดดันแบบที่หาได้ยากในเวทีทั่วไป
      ท้ายที่สุด โพสต์ของเสี่ยเปิ้ลเพชรนำโชคสะท้อนชัดว่าในวงการไก่ชน “เกียรติและศักดิ์ศรี” คือสิ่งที่อยู่เหนือเงินทองและเสียงเชียร์ เขาเลือกจะก้าวถอยออกมาอย่างสง่างาม เลือกจะนอนอยู่บ้านอย่างมีเกียรติ มากกว่าฝืนเดินบนเวทีที่หมดความหมาย และนั่นคือสิ่งที่ทำให้ไฟต์นี้ไม่ใช่แค่การชนธรรมดา แต่เป็นไฟต์แห่งประวัติศาสตร์ที่ผู้คนจะพูดถึงด้วยความเคารพ นี่คือการปิดฉากปีด้วยเลือดนักสู้ที่แท้จริง