เกาะกระแสวงการ

ดำเนินเรื่องโดย บังป๊อป ลูกหนองครก

วงการไก่ชนทำไมถึงต้องขึ้นตาชั่ง?

      ชัยชนะของไก่ชนมีปัจจัยหลายสาเหตุเช่นความสมบูรณ์ของร่างกาย ความเก่งเฉพาะตัว ความแข็งแกร่งที่มาจากการฟิตซ้อมและการเลี้ยงดูอย่างถูกวิธี จิตใจที่เหนียวแน่นอดทน ซึ่งมาจากสายพันธุ์และพันธุกรรมที่มาจากสายเลือดของบรรพบุรุษ  รวมถึงการอ่านเกมส์ในการเปรียบ ว่าคู่ต่อสู้เชิงชนแบบไหน เราต้องหาไก่แบบไหนไปแก้เกมส์ และสิ่งสุดท้ายที่สำคัญที่สุดก็คือเรื่องของรูปร่างสรีระและน้ำหนักที่แตกต่างกัน ดังนั้นเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ จากสมัยอดีตที่เวลาเปรียบไก่จะใช้มือจับ กะเกณฑ์น้ำหนักกันทั้งสองฝ่ายชอบแล้วค่อยตีกัน 
      การเปรียบไก่ถือว่าเป็นศาสตร์และศิลป์การเปรียบไก่ถือว่าเป็นศิลปะชั้นครูที่คนเก่งและมีความชำนาญย่อมได้เปรียบมือใหม่อย่างแน่นอน มีเทคนิคหลายต่อหลายอย่างในการเปรียบมีทั้งแม่ไม้หลายกระบวนท่า และลูกไม้หลายขบวนเพลง ซึ่งบางครั้งมือใหม่เจอเข้าไป เวลาปล่อยไก่เข้าสังเวียนถึงกับยกมือไหว้เพราะหลวงพ่อจ้อยไปเจอกับหลวงพ่อโต เพื่อการลดช่องว่างความได้เปรียบเสียเปรียบในยุคสมัยใหม่ และเพิ่มอรรถรสและความสนุกสนานอีกทั้งเพิ่มความยุติธรรมมากขึ้นในยุคสมัยนี้จึงมีเรื่องของตาชั่งเข้ามาเป็นส่วนสำคัญในการเปรียบไก่ ดังนั้นมือใหม่ที่มีหัวใจชื่นชอบในกีฬาไก่ชน จึงสามารถนำไก่มาเปรียบและชนได้อย่างไม่เสียเปรียบและรับประกันความเท่าเทียมโดยตาชั่งที่มาตรฐานและเที่ยงตรง ใครก็ได้มาเปรียบขอแค่รู้ว่าสูงเป็นอย่างไรและต่ำเป็นแบบไหน ดูแค่ผิวพรรณอายุ ถ้าชอบก็ประกันน้ำหนักวันชน ก็สามารถตัดสินใจได้เลย ในเมื่อลดเรื่องของการได้เปรียบเสียเปรียบลง สร้างความยุติธรรม เกมส์กีฬาจึงเพิ่มความสนุกได้มากขึ้น เรื่องของเงินเดิมพันจึงเพิ่มมากขึ้นตามจำนวนกลุ่มคนและปริมาณของสมาชิกที่อยู่ในซุ้มและ FC จากทั้งประเทศ 
    สาเหตุหลักสำคัญที่ทำให้ตาชั่งเข้ามามีบทบาทในวงการไก่ชนหลักๆก็คือ
  1. ลดข้อได้เปรียบเสียเปรียบเรื่องของสรีระ เพราะมือใหม่บางครั้งใจถึงพึ่งได้มีเงินที่สามารถจะชนแพงได้ แต่ขาดประสบการณ์และคนเก่งในการเปรียบเรื่องของกะเกณฑ์น้ำหนักในมือซึ่งอาจจะไม่ได้แม่นยำเหมือนคนที่มีประสบการณ์ ดังนั้นเมื่อเกิดการยั่วยุมีลูกล่อลูกชนเข้ามาจึงทำให้เสียเปรียบ การมีตาชั่งนั่นเท่ากับว่าดูแค่สูงต่ำผิวพรรณแค่นั้นพอที่เหลือให้เป็นหน้าที่ของตาชั่งในวันชน
  2. ในการเปรียบบางครั้งต้องเดินทางกันหลายร้อยกิโลเมตรเพื่อมาเจอตรงจุดกึ่งกลาง ตาชั่งมีบทบาทคือ เป็นบททดสอบของสัจจะและคำพูดเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาของนักกีฬาไก่ชนทั้งสองฝ่าย รวมถึงโปรโมเตอร์จัดการแข่งขันซึ่งก็ต้องเดินทางไปประสานงานเรื่องของการติดมัดจำในแต่ละครั้ง ดังนั้นถ้ามีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแจ้งมาไม่ตรง ตาชั่งจะเป็นเครื่องพิสูจน์ความจริงใจ เพราะถ้าแจ้งน้ำหนักตรงกันส่วนสูงที่มี    3. ระดับคือสูงกลางต่ำดังนั้นถ้าคุยเรื่องของพิกัดความสูงสรีระของไก่ ส่งรูปให้ทั้งสองฝ่ายดูเรื่องของผิวพรรณและลักษณะ ถ้าที่คุยมาในเบื้องต้นชอบพอกันแล้วจึงเกิดการเดินทางดังนั้นการเดินทางมาพบกันทั้ง 3 ฝ่ายถ้าน้ำหนักอย่างที่คุยกันไว้ตั้งแต่เบื้องต้นตรงกัน นั่นหมายความว่าเปอร์เซ็นต์ที่จะได้กันนั่นสูงขึ้นแน่นอน 
     ที่สำคัญถ้ามีตัวใดตัวหนึ่งมาแล้วสรีระมันผิดแผนแตกต่างไปจากที่แจ้งเอาไว้ในการเปรียบเช่นแจ้งไว้ 2.7 วันชนแต่โครงสร้างที่มาและการจับดูทั้งกระดูกและสรีระยังไงก็ 2.9 ขึ้นแน่นอนดังนั้นถ้าหากอยากจะได้คู่และพิสูจน์สัจจะของฝ่ายที่ดูโตกว่า การชั่งวันชน 2.7 เพื่อให้ได้ชนกันของทั้งคู่ตาชั่งจึงมีบทบาทสำคัญกับเรื่องนี้