สาระน่ารู้

ดำเนินเรื่องโดย บก แจ็ค

ไก่ชน แพ้สกุล ไก่แจ้

     ในคอลัมน์นี้หัวข้ออาจจะอ่านกันแล้วฝืนความรู้สึกฉีกกฎความคิดของใครหลายคน และบางคนอาจจะบอกว่าตรงกันข้ามกับความรู้ที่ได้ร่ำเรียนมาจากประสบการณ์ในวงการไก่ชน อ่านไม่ผิดครับไก่ชนแพ้สกุลไก่แจ้ คำว่าสกุลตามความเข้าใจของคนสมัยโบราณที่มีความคลุกคลีกับไก่ชนมาอย่างยาวนานและบอกต่อกันจากรุ่นสู่รุ่นบอกจากปากต่อปากเรื่องของสกุลไก่แจ้และไก่ชน การทดลองและสังเกตง่ายๆเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้คือ เอาไก่ชนและไก่แจ้อย่างละ 1 ตัวต้องบอกก่อนนะครับว่าต้องเป็นไก่ที่เต็มร่างมีจิตใจพร้อมสู้ไก่คือตั้งแต่อายุ 8 เดือนขึ้นไป สุ่ม 2 ใบซ้อนกันในลักษณะให้ไก่ออกกำลังกายป้องกันการเลาะและซวกปากสร้างความบาดเจ็บ การทดลองทำโดยง่ายๆคือเอาไก่ชนไว้ด้านใน และเอาไก่แจ้ไว้ด้านนอก ซักครึ่งวัน เดี๋ยวได้รู้กันเลย
      แต่ต้องบอกนะครับว่าการทดลองนี้อาจจะได้ผลประมาณ 80% อีก 20% อาจจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรือต้องใช้ระยะเวลาที่ยาวนานกว่านี้คำตอบที่ได้คือ ในกรณีที่เอาไก่ชนไว้ด้านนอกและไก่แจ้ไว้ด้านใน ให้ไก่ชนวิ่งเลาะสุ่มผลลัพธ์ที่ได้คือไก่ชนได้ออกกำลังกาย หรือในไก่ชนบางตัวก็อาจจะกระโดดขึ้นบนหลังสุ่มบ้างและทำท่าไม่อยากจะวิ่งบ้างโดยส่วนใหญ่จะเป็นประมาณนี้
   การทดลองแบบที่ 2 คือเอาไก่แจ้ไว้ด้านนอกเอาไก่ชนไว้ด้านในลักษณะเป็นครูนวมแต่ไม่ให้เกิดการปะทะกันนะครับในลักษณะให้ไก่วิ่งออกกำลังกายแบบที่ทำกันทั่วไป 80% ผลที่ได้คือ ไก่ชนที่อยู่ทางด้านข้างในเปียตั้งไม่สู้ไก่ พูดง่ายๆว่าไม่เอาไก่แล้วแพ้ไปเลย  เหลือเชื่อไหมล่ะครับไก่แจ้ตัวเล็กๆ สามารถเลาะให้ไก่ชนที่อยู่ด้านในแพ้ได้โดยที่ไม่ต้องมีการต่อสู้ เหตุผลก็คืออย่างที่แจ้งไปในเบื้องต้นลักษณะนี้คำโบราณเขาบอกว่ามันแพ้สกุล คำว่าสกุลถ้าเรียงลำดับจาก ตำราอนุกรมวิธานสัตว์ปีก ที่เป็นการเรียงลำดับชั้นเครือของสัตว์ปีกจำพวกไก่ จะเห็นได้ว่าบรรพบุรุษของไก่ทั้งหลายคือไก่ป่าหลังเทาและไก่ป่าคอแดง  มีหลักฐานทางพันธุกรรม DNA ในเรื่องของย้อนไปประมาณ 8,000-10,000 ปีในป่าทางเขตเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  ว่าไก่สายพันธุ์ต่างๆได้รับการวิวัฒนาการจากไก่ทั้งสองจำพวกและถูกทำให้เชื่องเพื่อเป็นสัตว์เลี้ยงเพื่อเป็นอาหารในครัวเรือนและเพื่อเกมส์กีฬา ดังนั้นสายพันธุ์ที่เป็นไก่แจ้หรือไก่สวยงามก็จะถูกพัฒนาในบางส่วนก็ยังคงสภาพลักษณะทางพันธุกรรมแบบดั้งเดิม ดังนั้นจำพวกของนักพัฒนาเพื่อการกีฬาและกลายมาเป็นไก่ชนจนถึงทุกวันนี้ กลุ่มนี้จะมีการพัฒนาสายพันธุ์ในแนวทางต่างๆตามจินตนาการของแต่ละคน จึงทำให้ลักษณะเปลี่ยนแปลงและผิดเพี้ยนไปจากพันธุกรรมของบรรพบุรุษในเบื้องต้น ถ้าทำความเข้าใจแบบง่ายๆก็คือ ไก่ป่าหรือไก่แจ้ที่มีลักษณะขนยาวหมอนใหญ่เสียงขันที่เป็นเอกลักษณ์ อาจจะเหมือนหรือคล้ายลักษณะพันธุกรรมของบรรพบุรุษ มีเคมีบางอย่างหรือลักษณะท่าทางที่น่าเกรงขาม ประหนึ่งเจอผู้ที่มากด้วยบารมี กับคนปกติธรรมดา เหมือนคนรวยกับคนจนเจอกันยังไงก็ต้องยอมคนที่มีสง่าราศีแต่งตัวดีไว้ก่อนอาจจะด้วยความเกรงใจ  แต่ถ้าปล่อยให้ต่อยกัน บอกได้เลยว่าเละ  เช่นเดียวกับไก่แจ้ก็เหมือนกันลองเปิดสุ่มแล้วปล่อยให้ตีกัน ผลออกมาก็เช่นเดียวกันครับ แหลกแน่นอนไก่แจ้ เรื่องนี้ใครไม่เชื่อลองเอาไปทดลองดูให้เห็น ทำให้เป็น เรียนรู้ด้วยตัวเองนะครับ  แต่บอกไว้ก่อนว่าผลที่ออกมาผมไม่รับผิดชอบนะครับ ถ้าไก่ตัวนั้นเกิดแพ้ไก่แจ้แล้วไม่สู้ไก่ หรือถ้าสู้ไก่แล้วเอาไปชนช่วงคาบลูกคาบดอก หรือเป็นต่อมากๆ แล้วจิตใจนึกถึงไก่แจ้ตัวนั้น เหมือนคนนอนอยู่ดีๆแล้วฝันเห็นผี ชักหัวหนีแบบนี้รูปหล่อไม่รับผิดชอบนะครับ....ฝากไว้ให้คิด